เจาะลึกทุกเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับธุรกิจเกษตรแห่งอนาคต ผ่านงาน Agrifuture Conference & Exhibition

ข่าวประชาสัมพันธ์กรุงเทพ : ในยุคของ Disruptive technologies แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ กำลังเข้ามาเป็นปัจจัยในการสร้างขอบเขตและวางรากฐานของอนาคต ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในภูมิภาค ส่งผลให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์รวมของนวัตกรรมเกษตรแห่งอนาคต ซึ่งองค์กรเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) และ วีเอ็นยูฯ สองผู้จัดงานเกษตรระดับโลกต่างเล็งเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้และต้องการกระตุ้นตลาดเกษตร ตลอดจนนำเอาองค์ความรู้ใหม่ๆ เข้ามานำเสนอให้เกษตรกรรายใหญ่ ผู้ซื้อ และผู้ประกอบการได้มีโอกาสนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อแบ่งปันแนวคิดเพื่อร่วมสร้างอนาคต จากเทคโนโลยีสู่ชุมชน อันจะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนแนวปฏิบัติและพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรทั้งไทยและเอเชียอย่างสมบูรณ์

จากแนวคิดดังกล่าวก่อให้เกิดงานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีเกษตรแห่งอนาคต Agrifuture Conference & Exhibition กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562 True Digital Park กรุงเทพฯ และ วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2562 Kubota Farm อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโลกธุรกิจการเกษตรสมัยใหม่ ในยุค Digital Disruption เป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าเรียนเชิญผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,200 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชีย มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ผ่านงานประชุมนานาชาติที่มีการจัดงานนิทรรศการแสดงสินค้า และการเชื่อมต่อเครือข่ายทางธุรกิจ ที่เกษตรกร ผู้ประกอบการค้าและผู้รับจ้างให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร เจ้าของบริษัท เจ้าของสวน/ไร่ ตัวแทนจำหน่าย สหกรณ์เกษตร นักวิจัย นักวิชาการเกษตร นักวิศวกรรมเกษตร และนักวางแผนและพัฒนานโยบายภาครัฐ จะเป็นกลุ่มที่เรียนเชิญให้เข้าร่วมงานในครั้งนี้

ในวันแรกของการประชุมจะเรียนเชิญผู้นำด้านการผลิตและซื้อขายสินค้าเกษตรมาบรรยายใน 2 หัวข้อหลัก 1. แนวโน้มการเติบโตของผลผลิตทางการเกษตรในตลาดโลกและภูมิภาคต่างๆ (Global & Regional Crop Markets)

2. เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) โดยเน้นไปที่เกษตรดิจิทัล ได้แก่ การทำเกษตรแม่นยำสูง ดาวเทียมเพื่อการเกษตร การวางแผนจัดการพื้นที่และวางระบบน้ำ โดยใช้เทคโนโลยี IT การพัฒนาเมล็ดพันธุ์และดิน การตรวจสอบย้อนกลับ และเครือข่ายการเก็บข้อมูล การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปและสร้างแบรนด์ เพื่อขยายสู่ตลาดสุขภาพและความงาม รวมถึงเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ในขณะที่วันที่สองนั้นจะมุ่งเน้นในส่วนของการบริหารจัดการการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการจัดการทางการเงินและต้นทุนการผลิต (Mechanization & Financial Management)” โดยคาดหวังว่างานแสดงเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะมีผู้ประกอบการกว่า 30 ราย ที่จัดแสดง Disruptive Technology ของการเกษตรในอนาคต

นายฮิโรโตะ คิมุระ ประธาน บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด พันธมิตรทางนวัตกรรมของงาน Agrifuture กล่าวว่าวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ คือ การเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรด้วยนวัตกรรมเกษตรเพื่ออนาคตเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน มุ่งหวังให้เกษตรกรบริหารจัดการในการทำเกษตรให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต นำไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งยกระดับภาคเกษตรกรรมของอาเซียนให้มั่นคงอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ประชากรทั่วโลกมีความมั่นคงทางอาหารในการบริโภคจากผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัย อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการยอมรับความเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก (Global Major Brand) ตามนโยบายของคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ด้วยพันธกิจเดียวกันเราจึงเชื่อมั่นในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Agrifuture ในครั้งนี้ว่าจะช่วยตอบโจทย์ด้านการพัฒนาการเกษตรแห่งอนาคตอย่างแท้จริง

ราคาบัตรเข้าร่วมฟังสัมมนา Agrifuture Conference & Exhibition

โปรโมชั่น ราคาพิเศษเฉพาะผู้ลงทะเบียนระหว่าง วันนี้ – 30 กันยายน 2562 เท่านั้น!

  • ราคาบัตรเข้าฟังสัมมนา ราคาปกติ 15,000 บาท (480 USD) จ่ายเพียง 12,000 บาท (380 USD)
  • โปรโมชั่นเพิ่มเติมสำหรับชาวไทย ลดเพิ่มเติมอีก 25% จ่ายเพียง 9,000 บาท**

โปรโมชั่น ราคาสำหรับการลงทะเบียนแบบหมู่คณะ

  • ราคาบัตรเข้าชมงาน แบบกลุ่ม 4 ท่าน 36,000 บาท (1,120 USD)
  • สิ่งที่ได้รับ: บัตรเข้าฟังสัมมนาวันที่ 2 ธันวาคม 2562 รวมอาหารเช้ากลางวันอาหารว่างตลอดทั้งวัน, เอกสารงานสัมมนา, เข้าร่วมงาน Networking, ห้องพัก 1 คืนในโรงแรมพันธมิตร พร้อมค่าเดินทางในการเยี่ยมชมฟาร์มเทคโนโลยีตัวอย่างในวันที่ 3 ธันวาคม 2562
  • หมายเหตุ: ค่าลงทะเบียนแบบไม่รวมที่พักกรอก promo code: DISACCOMM

ลงทะเบียนเข้างานได้ที่ www.online-register.org/agrifuture/register/ | ดูรายชื่อวิทยากรที่ www.agritechnica-asia.com/agrifuture-conference/

สนใจสนับสนุนการจัดงาน กรุณาติดต่อ คุณโรซานา ดับเบรรา | โทร. 02-670-0900 ต่อ 128-129 | อีเมล์: rozanna@vnuexhibitionsap.com

Michael O’Connor

| Sales Director; GESSNER INDUSTRIES


Topic: Mechanization of Sugarcane Farms in SE Asia

More than 40% of the world’s sugarcane is grown throughout SE Asia, China, Pakistan and India.  Estimates suggesting that currently more than 70% of this sugarcane is still planted and harvested by hand.  Therefore, expect some fairly dramatic changes in the way we farm throughout this region over the next two decades.

SE Asia is tracking towards total sugarcane production of around 250MT by 2022.  Increased mechanisation and adopting best practices, particularly with ground preparation and planting could help increase sugarcane production by 20%.  This could mean an additional 50MT of sugarcane produced each year by embracing similar practices to that of a fully mechanised sugarcane country like Australia.

Labour costs still look relatively low for most of SE Asia.  However, it is inevitable with greater urbanisation, a gradual decrease in suitable labour, increased pressure on wages and government restrictions on harvesting practices, will all ultimately place greater focus on farmers to get more efficient with their farming techniques.

“I am the former co-owner and Sales Director of MPH Rural Pty. Ltd. a family owned, manufacturing and construction SME operating in the highly competitive, seasonal markets of grain and water storage.
For more than a decade I developed and grew the MPH Rural business and gained an extensive knowledge of the Australian agricultural industry and the demands of regional business and property owners.
My brother, Jim O’Connor and I purchased Gessner Industries in July 2013. Gessner Industries specialize in the design and manufacture of the highest quality equipment and attachments for the Agricultural, Construction and Mining Industries throughout Australia, Africa and Asia. In 2015, Gessner Industries will have operated continuously for 40 years.”